ต้องเป็นน้ำที่ได้คุณภาพเบื้องต้นที่ดีครับ โดยปกติแล้วน้ำบริสุทธิ์มีค่า pH = 7.4 หรือด่างนิดๆ แต่หากมีค่า pH ที่แตกต่างจากนี้อาจสันนิษฐานได้ว่ามีสิ่งเจือปนอยู่ครับ น้ำที่นำมาใช้ควรเป็นน้ำที่ผ่านเครื่องกรอง ทั้งน้ำบาดาล และน้ำประปา กรณีใช้น้ำประปาควรมีการพักน้ำเพื่อบำบัดคลอรีน เพราะปลามังกรนั้นค่อนข้างไวต่อคลอรีนมากครับ บางท่านมักนิยมใส่น้ำยาลดหรือกำจัดคลอรีน ซึ่งผมคิดว่าไม่จำเป็นครับ นอกจากจะเป็นการสิ้นเปลืองแล้ว ยังมีสารเคมีสะสมในน้ำต่างหาก ถ้าน้ำไม่ดีตั้งแต่แรก ส่วนที่เหลือก็ไม่สามารถทำให้ระบบทำงานหรือการเลี้ยงดีได้ครับ และแย่ที่สุดก็อาจทำให้เราเสียปลาไปได้ในระยะเวลารวดเร็วจากการเปลี่ยนน้ำที่มีคลอรีนสูงครับ อย่าเสี่ยงเปลี่ยนน้ำเพราะคิดว่าน้ำมีคลอรีนนิดหน่อยคงไม่เป็นไร ปกติก็เปลี่ยนอย่างนี้ ต้องเรียนว่าค่าน้ำในแต่ละวัน อาจจะมีคลอรีนผสมอยู่ในอัตราส่วนที่ไม่ได้เท่ากันทุกวัน ตรงนี้ขออย่าได้ประมาท น้ำนับเป็นส่วนที่ผมให้ความสำคัญที่สุดในระบบครับ
การเปลี่ยนน้ำด้วยจำนวนที่เหมาะสมเป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกันครับ ปลาจะแข็งแรงโตได้ไว ส่วนหนึ่งก็ด้วยน้ำใหม่ที่สะอาดเสมอ หลายครั้งผมเห็นปลาที่เพื่อนๆเลี้ยงไว้แต่นานๆถึงจะได้เปลี่ยนน้ำในตู้ที เปรียบเทียบกับผมที่เปลี่ยนแทบทุกอาทิตย์ เห็นได้ชัดเจนครับปลาที่ได้รับการเปลี่ยนถ่ายน้ำบ่อยๆในอัตราที่เหมาะสมจะมีการเจริญเติบโต กินดีและแข็งแรงกว่าการเลี้ยงปลาที่ไม่ค่อยได้เปลี่ยนน้ำครับ
ส่วนตัวผมแล้วผมมีเทคนิคเล็กน้อยในการเปลี่ยนน้ำคือ ใน 1 เดือนจะต้องเปลี่ยนน้ำให้ได้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ของตู้ใบนั้น เช่นตู้ขนาด 1000 ลิตร ผมต้องเปลี่ยนน้ำจำนวน 1000 ลิตรใน 1 เดือน โดยผมจะแบ่งตามวิธีหารด้วย 4 ครับ (เลข4หมายถึงจำนวนสัปดาห์ใน 1 เดือน) คือครั้งหนึ่งจะต้องเปลี่ยนน้ำอาทิตย์ละ 250 ลิตรหรือ 25 เปอร์เซ็นต์ รวม 4 สัปดาห์ ก็ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ หรือ 1000 ลิตร แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนปลาในตู้ และประสิทธิภาพของระบบกรองด้วยครับ
เราสามารถตรวจสอบว่าอัตราการเปลี่ยนน้ำของเราเหมาะสมหรือไม่ก็โดยวิธีการตรวจสอบค่า NO3 ในตู้ หากค่าที่ได้ต่ำกว่า 0.3 หมายความว่าและมีการเปลี่ยนน้ำที่เหมาะสมแล้วครับ
โดยผมมีข้อห้ามสำคัญในการเปลี่ยนน้ำดังนี้
ไม่เปลี่ยนน้ำที่ไม่ได้ผ่านกรองหรือไม่ได้พักน้ำไว้ก่อนเด็ดขาด ยอมไปเปลี่ยนอาทิตย์หน้าดีกว่าเพื่อให้ค่าน้ำปกติ
ม่เปลี่ยนน้ำเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ต่อครั้งในทุกกรณี
ไม่เปลี่ยนน้ำก่อนหรือหลังให้อาหารปลา หากจำเป็นต้องเว้นช่วงอย่างน้อย 1
ชั่วโมง
2.อุณหภูมิที่เหมาะสมและคงที่
ปลาที่แข็งแรงกินดีนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ส่วนหนึ่งคืออุณหภูมิที่เหมาะสมและคงที่ อุณหภูมิที่เหมาะสมกับปลาสายพันธ์นั้นๆปลามังกรชอบอุณหภูมิคงที่ในช่วง 27-30 องศาครับ เราควรต้องศึกษาครับว่าปลาแต่ละสายพันธ์นั้นชอบน้ำเย็น น้ำอุ่น อย่างใด คำว่าอุณหภูมิคงที่หมายถึงเราสามารถควบคุมอุณหภูมิไม่ให้เปลี่ยนแปลงมากในแต่ละวัน เช่น เช้า 25 องศาเซนเซียส บ่าย 26 เย็น 27 อย่างนี้พอรับได้ครับ แต่ถ้าเช้า 25 บ่าย 30 เย็นกลับมา 25 อีก อย่างนี้ปลาเครียด และป่วยได้ง่าย ยิ่งถ้าหากระบบเล็ก ตู้ปลาเล็กแล้ว โอกาสที่อุณหภูมิจะแกว่งนั้นยิ่งมีมาก ตรงนี้จำเป็นครับที่เราต้องมีระบบช่วย มีฮีตเตอร์( Heater) ควบคุมอุณหภูมิของน้ำ
ในฤดูหนาวนั้น หากตู้ปลาของท่านมีขนาดความจุน้อยๆ ตั้งอยู่ด้านนอกของบ้านบริเวณที่มีลมพัดโกรก เป็นประจำแล้ว การใช้ Heater เป็นสิ่งจำเป็นมากครับ ท่านอาจตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 25 องศา เพราะที่อุณหภูมิดังกล่าวปลาสามารถอยู่ได้อย่างสบายครับ และจะยิ่งดีกว่านั้นหากท่านได้หาแผ่นโฟมหนาสัก 1 นิ้วขึ้นไป มาเป็นฉนวนปิดกับแผ่นกระจกของตู้รอบด้าน จะช่วยเรื่องควบคุมอุณหภูมิของน้ำจากความหนาวเย็น ได้ดียิ่งขึ้น เรื่องอากาศหนาวไม่เท่าไหร่ครับ แต่เรื่องลมต้องระวังให้ดี เพราะเป็นตัวแปรที่ควบคุมได้ยาก
ในฤดูร้อนนั้น หากตู้ของท่านตั้งอยู่บริเวณที่โดนแสงแดดเป็นเวลานานแล้ว ควรหาแผ่นไม้หรือผ้าหนามาบังแดดไว้จะช่วยให้อุณหภูมิในตู้ลดลง หากอุณหภูมิสูงมากเกิน 32 องศาเซนเซียส ควรที่จะติดตั้งพัดลมบริเวณฝาตู้ หรือเปลี่ยนฝาตู้เป็นฝาตะแกรงจะช่วยลดอุณหภูมิได้มากครับ
3.ระบบกรอง
นึกภาพว่าเพื่อนๆอยู่ในห้องแคบ ต้องกินและขับถ่ายออกมา หากไม่มีระบบกำจัดของเสีย ไม่มีระบบย่อยของเสียแล้ว ไม่นานสิ่งที่ขับถ่ายจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเต็มห้อง สุดท้ายก็ทำให้ไม่สบาย เจ็บป่วยได้ ย้อนมาดูตู้ปลา หากไม่มีระบบกรองที่ดี วัสดุกรองที่มีประสิทธิภาพ การวางวัสดุกรองโดยไม่ให้น้ำ BY PASS วัสดุกรอง ระบบที่เพียงพอต่อการบำบัดน้ำในตู้อย่างเหมาะสมกับจำนวนและ ชนิดของปลาแล้ว ก็อาจทำให้ปลาของท่านไม่สดชื่น มีอาการเครียดและป่วยบ่อย (ศึกษาเรื่องระบบกรองของคุณ